'Memento Mori' เป็นสำนวนละติน สำเนียงฟังดูน่ารัก แปลว่า 'Remember that you have to die' หรือ 'อย่าลืมว่าเราต้องตาย'
เราอยู่ในสังคมสมัยใหม่ที่ได้แบ่งแยกความเป็นกับความตายเป็นคู่ตรงข้าม มีอาชีพต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาเจอความตายแทนเรา แต่ในความเป็นจริงแล้วความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิตเชื่อมกันอย่างแยกไม่ได้ คงน่าเสียดายหากพลาดที่จะเรียนรู้ความตาย ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับคำสาปที่จะต้องตาย อนาคตอาจมีเทคโนโลยีรักษาความตายก็เป็นได้ เมื่อคุณหายใจลมหายใจเฮือกสุดท้าย หัวใจหยุดเต้นลง เลือดก็หยุดหมุนเวียน สมองเราจะตายหลังจากขาดอากาศไป 6 นาที และส่วนต่างๆของร่างกายค่อยๆหยุดทำงาน เซลล์ต่างๆค่อยๆตายตามกันมา แล้วมีอะไรต่อล่ะ เราจะยังมีตัวตนอยู่อีกไหม หรือจะลาจากกันตลอดไป ชีวิตอาจไม่แน่นอน และตายแล้วไปไหนต่อก็ยังไม่แน่นอนไม่ต่างกัน เราอาจจะหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล หรืออาจจะกลับมาใหม่เป็นคน สัตว์ สิ่งของ แบคทีเรีย อาจได้ไปนรกหรือสวรรค์ มีเพียงเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามีอะไรต่อไป
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์โลกนี้ ได้มีคนตายไปจากโลกแล้ว 106,000 ล้านคน ขณะที่มีคนอาศัยอยู่บนโลกตอนนี้ราวกว่า 6.8 พันล้านคน หากไม่มีใครตายโลกก็คงจะแน่นไปด้วยผู้คนคงล้นโลก หากไม่มีใครเกิดใหม่สวรรค์ก็คงประชากรล้นแน่น ทุกวันนี้มีคนตายเฉลี่ยประมาณวันละ 155,500 คน และ มีคนเกิดใหม่มาทดแทนคนที่หายจากไป
บล็อกนี้ต้องการจากรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์เกี่ยวกับความตายในหลากหลายแง่มุม ทางเลือกและแนวคิดใหม่ๆเกี่ยวกับความตาย เขียนน้อยย่อยง่าย และพยายามจะออกไปพูดคุยเพื่อรวมรวมเสียงและความคิดของผู้คนที่มีต่อความตาย โปรดติดตาม!
Death is the only certain thing in our life. Each culture has different ideas on death. In modern world, we are scared so scared. We separate from death when it is a part of the process of our life. Doctor students have no proper training to cope with death. In Buddhism, Morananusti means Death Awareness. We can talk about 'death' before it's really near. It will come for every one of us. This blog, I will use my free time to aggregate all the things related to death for you.